Monthly Archives: August 2015

Responsive Web Design ให้รองรับขนาดหน้าจอสำหรับอุปกรณ์ทุกชนิด

ปัจจุบันเว็บไซต์แบบ Responsive เป็นเว็บไซต์ที่สามารถรองรับการทำงานบนหน้าจออุปกรณ์เครือข่าย เช่น Desktop Internet , Mobile Internet และอื่นๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะมีหน้าจอแตกต่างกันไปตามขนาดความกว้างของเครื่อง ทำให้หน้าต่างเว็บไซต์ที่ออกแบบให้ดูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว มีปัญหาการทำงานเมื่อใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดเล็กว่า ซึ่งผู้ใช้บริการควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการจัดทำเว็บไซต์ในปัจจุบันให้สามารถในการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และเมื่อดูจากผลสำรวจ ก็พบว่าปริมาณการใช้อินเตอร์เน็ตที่เกิดจากอุปกรณ์พกพาต่างๆยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี การออกแบบเว็บไซต์ตามหลัก Responsive เป็นอีกเรื่องที่คนทำเว็บควรจะศึกษาไว้และใช้กับงานเว็บไซต์ให้เหมาะสม

การออกแบบเว็บไซต์เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานกับทุกอุปกรณ์ คนส่วนใหญ่มักมองว่าจำเป็นต้องใช้ต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้น เพื่อใช้ในการออกแบบเว็บไซต์แต่ละเวอร์ชั่นให้รองรับกับการใช้ของอุปกรณ์ที่ มีความลหากหลายได้ ซึ่งความจริงแล้วนั่นอาจเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะการออกแบบ Responsive Web คือเทคโนโลยีการออกแบบเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่รองรับทุกขนาดหน้าจอรวมถึงทุกอุปกรณ์สื่อสารด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เวลาที่สั้นกว่า และประสิทธิภาพที่สูงกว่าการผลิตเว็บไซต์แยกหลายเวอร์ชั่น สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในการออกแบบเว็บไซต์ Responsive จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลรูปภาพบนอุปกรณ์ที่มีขนาดแตกต่างกัน ซึ่งปัจุบันมีเทคนิคมากมายที่ช่วยในการจัดการปัญหาดังกล่าว โดยเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากคือนำ CSS มาช่วยในการออกแบบการแสดงผลดังกล่าว

หลักการออกแบบเว็บไซต์ให้เป็น Responsive

1.ออกแบบโดยคำนึงถึงอุปกรณ์พกพาเป็นที่ตั้ง โดยให้ฟีเจอร์ที่สำคัญบนเว็บสามารถแสดงผลและใช้งานได้เป็นอย่างดีบนอุปกรณ์พกพา แล้วค่อยคิดจัดวางรูปแบบและปรับปรุงให้ใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
2.ลำดับความสำคัญของ element ต่างๆให้ถูกต้อง
3.บนอุปกรณ์พกพาต้องใช้พื้นที่แสดงผลให้คุ้มค่า แม้ปัจจุบันมือถือจะแข่งกันเบ่งขนาดหน้าจอ แต่ความจริงคือพื้นที่ใช้งานบนหน้าจอมือถือก็ยังน้อยกว่าบนคอมพิวเตอร์อยู่มาก
4. ลดการใช้งานไฟล์ขนาดใหญ่